ผบช.น. แถลงยอมรับตำรวจละเว้นหน้าที่ปม ‘ดาราสาวไต้หวัน’ รอผลสอบรีดเงิน

ผบช.น. แถลงยอมรับตำรวจละเว้นหน้าที่ปม ‘ดาราสาวไต้หวัน’ รอผลสอบรีดเงิน

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยอมรับ ตำรวจละเว้นปฏิบัติหน้าที่กรณี ดาราสาวไต้หวัน จริง ส่วนเรื่องรีดเงินรอผลสอบ ยืนยันไม่ได้สั่งลบคลิป วันนี้ 30 มกราคม 2566 เมื่อช่วงสาย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงหลังจากที่ นาย ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์ข้อความว่ามีหลักฐานเจ้าหน้าที่ตำรวจไถเงิน อั๋นยูชิง ดาราสาวไต้หวันจริง รวมถึงกรณีก่อนหน้านี้ที่มีรายงานว่า หนึ่งในเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ออกมายอมรับว่ามีการรีดเงินจริงนั้น

พล.ต.ท.ธิติ เผยว่า ตอนนี้กำลังรอข้อมูลจากฝ่ายสืบสวนและคณะกรรมการสืบสวน 

โดยนำคลิปมาเชื่อมต่อกัน และพบว่ามีการบกพร่อง ม.157 ละเว้นในการปฎิบัติหน้าที่ และได้ดำเนินแจ้งข่าวหาไปส่วนหนึ่งแล้ว ส่วนเรื่องการเรียกรับเงิน 27,000 บาทนั้น ยังต้องดำเนินการติดตามพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสืบสวน ย้ำว่า ม.157 และรีดเงินคือคนละประเด็นกัน

ในส่วนของเรื่องการลบภาพกล้องวงจรปิดตามที่ นาย ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้มีการกล่าวอ้างผ่านเฟซบุ๊กนั้น พล.ต.ท.ธิติ ยืนยันว่าไม่สามารถทำได้ และไม่เคยมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ในส่วนกล้องหน้าสถานทูตจีนนั้นตำรวจไม่สามารถเข้าถึงได้เนื่องจากเป็นส่วนของทางสถานทูต แต่ได้ติดต่อไปทางสถานทูตเพื่อขอดูภาพแล้ว ในประเด็นกล้องติดหมวกของตำรวจกำลังส่งให้ไปตรวจสอบเพิ่มเติม หลังพบว่าไฟล์ถูกลบ แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นการสั่งลบคลิปหรือคลิปลบเอง

ส่วนประเด็นเรื่องตำรวจสารภาพนั้น พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่าในนี้อยู่ในคำให้การ กำลังรออยู่ ถ้ามีจะให้เจ้าหน้าที่เอาเข้ามาในสำนวน โดยการสอบครั้งแรกไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจให้การสารภาพ ซึ่งทางผู้สื่อข่าวถามย้ำว่ายังไม่มีตำรวจสารภาพว่ารีดเงินดาราสาวไต้หวัน ซึ่งทาง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยว่าตนยังไม่ได้คุยกับตำรวจคนดังกล่าว และต้องพูดคุยกับทั้งคนให้ปากคำและสอบปากคำ

กรณีหญิงไทยและชายไทยที่จ่ายเงิน 27,000 บาท ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้วางแผนแนวทางการสืบสวนไว้แล้ว ในการประชุมเมื่อวานก็มีการเร่งรัดติดตามบุคคลทั้งหมด ไม่ใช่แค่ผู้ขับขี่ ทุกคนที่เกี่ยวข้อง ในทุกจุดที่นักท่องเที่ยวไป ติดตามพยานทุกคน เพื่อทำข้อเท็จจริงให้เรื่องนี้ให้ปรากฎ ส่วนประเด็นที่มีบุคคลอื่นมาด่านเพิ่มเติมนอกจาก ดาราสาวไต้หวันและเพื่อนนั้นตอนนี้ต้องรอข้อมูลเพิ่มเติม

ขณะนี้ได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ไปพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในไต้หวัน เพื่อประสานเพื่อนสามคนให้เข้ามาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหากเดินทางมาเข้าประเทศไทย ต้องให้ฝ่ายกฎหมายดูว่ามีความผิดเรื่องพกพาบุหรี่ไฟฟ้าหรือไม่ ยังตอบไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีรายงานว่ามีตำรวจที่ไม่อยู่ในเวร ได้เดินทางและสวมชุดตำรวจมาร่วมตั้งด่วนด้วย ในประเด็นนี้ พล.ต.ท.ธิติ ต้องตรวจสอบ แต่ยืนยันว่าอยู่ในสำนวนหมดแล้ว ยืนยันว่ามีรายชื่อตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว พร้อมระบุด้วยว่ามีดำเนินคดี ม.157 ไปหลายนาย

นอกจากนี้ยังได้พูดถึง นาย ชูวิทย์ ด้วยว่าหากมีคลิปมือถือหลักฐานเด็ดเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมจะยินดีรับไว้เป็นหลักฐาน และขอให้นายชูวิทย์นำหลักฐานออกมา ถ้ามีหลักฐานว่าตนทำผิดจริง ก็ให้นำหลักฐานออกมา

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ยืนยันกับประชาชนว่าไม่มีการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจและดำเนินการอย่างเต็มที่ผิดก็ว่าผิด ไม่มีใครไปปกปิดเรื่องราวแบบนี้ เป็นไปไม่ได้ พร้อมขอโทษประชาชนที่ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่เสื่อมเสียกับองค์กร

สะเทือนใจ! เด็กหนีออกจากบ้านพร้อมแมว ล่าสุดยายรับตัวไปแล้ว

บีบหัวใจ เด็กหนีออกจากบ้านพร้อมแมว หลังที่บ้านมีปัญหา ล่าสุดยายรับตัวแมวและเด็กกลับไปแล้ว ชาวเน็ตแห่ให้กำลังใจเพียบ กลายเป็นเรื่องราวไวรัลสุดบีบหัวใจหลังเพจ แมวโรงพัก ได้แบ่งปันเรื่องราวเด็ก 9 ขวบหนีจากบ้านพร้อมกับแมว หลังจากที่บ้านมีปัญหา โดยทางเพจระบุว่า “เพราะนายคือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน”…

กลางดึกคืนวันอาทิตย์ ห้องวิทยุโรงพักบางนาได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่า “พบเห็นเด็กชายหนีออกจากบ้าน” สายตรวจจึงเข้าไปตรวจสอบพบข้อเท็จจริงบางอย่างที่อยากมาเล่าสู่กันฟังครับ…

เบื้องต้นน้องออกมาพร้อมกับแมวส้มขาวตัวอุกปุกหนึ่งตัวด้วย น่าจะเป็นอะไรที่สะดุดตากับพลเมืองดีพอสมควร จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า น้องอายุ 9 ขวบล่ะ…ทางบ้านมีปัญหานิดหน่อย เลยตัดสินใจพาแมวตัวรักออกมาจากบ้านด้วยครับ (ทราบภายหลังน้องมีแมว 2 ตัวแต่เอามาไม่ไหว อ้วนเกินเลยเลือกมาแค่ตัวเดียว)

แอดฯไม่อยากตัดสินว่าที่บ้านของน้องเกิดอะไรขึ้นนะครับ แต่เราอยากให้โฟกัสไปที่ความรักของน้องกับแมว ที่เลือกที่จะออกมาจากตรงนั้น ตรงที่ไม่ใช่เซฟโซนของน้องในความรู้สึก…

ในขณะพิมพ์เล่าให้กับทุกคน แอดฯเองก็หวิวๆนะ ดูภาพน้อง ดูภาพแมวไปด้วย…สะเทือนใจอย่างบอกไม่ถูกครับ…เบื้องต้นทางพี่ๆเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อทางคุณยายของน้อง และได้มารับตัวน้องกับแมวไปอยู่ที่บ้านของคุณยายเรียบร้อยแล้วนะครับ…

เมื่อหันหน้าไปหาใครไม่ได้ มีไม่กี่ทางเลือกที่เด็กคนหนึ่งจะเลือกครับ แต่ในทางหนึ่งน้องเลือกที่จะมีแมวเข้ามาดูแลความรู้สึกตรงนี้ และแอดฯเชื่อว่า ความรักของน้องกับแมวน้อง คือความรักที่บริสุทธิ์ที่สุดที่เราเคยพบเห็นผ่านมาเลยก็ว่าได้น้า

เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> เซ็กซี่บาคาร่า น้ำเต้าปูปลาออนไลน์ เว็บตรง100 ดัมมี่ออนไลน์ UFA666WIN